ประเพณีไหลเรือไฟ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

งานประเพณีไหลเรือไฟ

 

             

                  เชิญเที่ยวงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2555 วันที่ 23 ถึง 31 ตุลาคม 2555 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม และริมเขื่อนแม่น้ำโขง เทศบาลเมืองนครพนม
              ชมการแข่งขันเรือยาว ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ชิงพระราชทานฯ พิเศษวันที่ 30 ตุลาคม 2555 วันออกพรรษา ภาคเข้าชมพิธีรำบูชาพระธาตุ ของนางรำกว่า 500 ชีวิตจาก 7 เผ่าของจังหวัดนครพนม ณ บริเวณลานหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม
               ภาคค่ำชมการไหลเรือไฟ ทั้งประเภทความคิดและสวยงาม จากอำเภอและหน่วยงานต่างๆในจังหวัดนครพนมกว่า 15 ลำ ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง เทศบาลเมืองนครพนม เลือกชิมอาหารจากกลุ่มแม่บ้านและซื้อสินค้าโอทอปของดีประจำถิ่นคุณภาพดีราคาถูก ชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านของ จังหวัดนครพนม แวะอุดหนุนร้านมัจฉากาชาด ลุ้นรางวัลสลากกาชาด โดยรายจากการจำหน่ายจะได้นำไปบำรุงสภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ยากไร้ในจังหวัดนครพนมและจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศต่อไป อย่าลืม 23-31 ตุลาคม 2555 พบกันที่จังหวัดนครพนม

 

 เรือไฟ อำเภอนาหว้า


ประเพณีไหลเรือไฟ

           เรือไฟ หรือ เฮือไฟ หมายถึง เรือที่ำทำด้วยท่อนกล้วย ไม้ไผ่ หรือ วัสดุ ที่ลอยน้ำ มีโครงสร้างเป็นรูปต่าง ๆ ตามต้องการ เมื่อจุดไฟใส่โครงสร้าง เปลวไฟจะลุกเป็นรูปร่างตามโครงสร้างนั้น

"ไหลเรือไฟ" เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่พุทธศาสนิกชนอีสาน ยึดถือปฏิบัติ สืบทอด กันมาแต่ครั้งโบราณ ประเพณีการไหลเรือไฟ บางทีเรียกว่า "ล่องเรือไฟ" "ลอยเรือไฟ" หรือ "ปล่อยเรือไฟ" ซึ่งเป็นลักษณะที่เรือไฟเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ

 

 

              งานประเพณีไหลเรือไฟ นิยมปฏิบัติกันในเทศกาลออกพรรษา ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ประเพณีไหลเรือไฟ มีความเชื่อเกี่ยวโยง สัมพันธ์กับข้อมูลความเป็นมาหลายประการ เช่น เนื่องจากการบูชารอยพระพุทธบาท  การสักการะพกาพรหม การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณี  การระลึกถึงพระคุณ ของพระแม่คงคา เป็นต้น

              เรือไฟประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นทุ่นสำหรับลอยน้ำ จะใช้ไม้ที่ลอยน้ำ มาผูกติดกันเป็นแพ และส่วนที่เป็นรูปร่างสำหรับจุดไฟ เป็นส่วนที่อยู่บนทุ่น ใช้ไม้ไผ่ ลำยาวแข็งแรง ตั้งปลายขึ้นทั้ง 3 ลำ เป็นเสารับน้ำหนักของแผลง และแผลงนี้ ก็ทำด้วยไม้ไผ่ขนาดเล็กมาผูกยึดไขว้กัน เป็นตารางสี่เหลี่ยม ระยะห่างกันประมาณ คืบเศษ มัดด้วยลวดให้แน่ วางราบบนพื้น เมื่อวางแผนงานออกแบบบนแผงว่า ควรเป็นภาพอะไร การออกแบบในสมัยก่อน ออกแบบเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ศาสนาพุทธ  เช่น  พุทธประวัติ  เป็นต้น 

  

   

               ในปัจจุบัน วิธีทำเรือไฟ มีการนำเอเทคโนโลยีแนวใหม่ ๆ เข้ามาช่วย เช่น การใช้เรือจริง ๆ แทนต้นกล้วยหรือไม้ไผ่ ใช้ริ้วผ้าชุบน้ำมันโซล่า (ดีเชล) แทนน้ำมันยาง หรือการใช้ไฟฟ้าประดับเรือแทนการใช้ริ้วผ้าชุบน้ำมันยาง เป็นต้น

ประเพณีการไหลเรือไฟภาคอีสาน จะเป็นประเพณีที่คาบเกี่ยว ระหว่างเดือน สิบเอ็ด และเดือนสิบสอง ส่วนมากนิยมทำกันในวันขึ้น 15 ค่ำ หรือวันแรม 1 คำ เดือนสิบเอ็ด พอถึงวันงาน ชาวบ้าน พระภิกษุสงฆ์และสามเณร จะช่วยกันทำเรือไฟ เพือ่ไปลอยที่แม่น้ำ ในช่วงเช้าจะมีการประกอบการกุศล โดยการไปทำบุญตักบาตร

มีการถวายภัตตาหารเพลแล้ว เลี้ยงญาติโยมที่มาในช่วงบ่าย มีการละเล่นต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนาน รวมทั้งมีการรำวงเป็นการฉลองเรือไฟ พอประมาณ 5 - 6 โมง เย็น หรือตอนพลบค่ำ มีการสวดมนต์รับศีลและฟังเทศน์ ถึงเวลาประมาณ 19 - 20 นาฬิกา ชาวบ้าน จะนำของกิน ผ้า เครื่องใช้ ขนม ข้าวต้มมัด กล้วย อ้อย หมากพลู บุหรี่ ฯลฯ ใส่ลงในกระจาดบรรจุไว้ในเรือไฟ ครั้งถึงเวลา จะจุดไฟให้เรือสว่าง แล้วปล่อยเรือให้ลอยไปตามแม่น้ำ

จังหวัดที่เคยทำพิธีกรรมการไหลเรือไฟอย่างเป็นทางการ ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สกลนคร นครพนม หนอง เลย มหาสารคาม และ อุบลราชธานี

งานออกพรรษาไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2555

                 งานออกพรรษาไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2555 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีเรือไฟส่งเข้าประกวด 14 ลำ การประกวดแบ่งเป็นประภทสวยงามและความคิด ผลการตัดสิน 

                 รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท สวยงาม อันดับ 1 ได้แก่ เรือไฟ อ.โพนสวรรค์ ได้รับเงินรางวัล 60,000 บาท อันดับ 2 เรือไฟ อ.เมืองนครพนม และ อันดับ 3 เรือไฟจาก อำเภอธาตุพนม

                 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท สวยงาม อันดับ 1 อ.โพนสวรรค์

 

 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท สวยงาม อันดับ 2 อ.เมืองนครพนม

 

 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท สวยงาม อันดับ 3 อ.ธาตุพนม

 

               รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท ความดิด อันดับ 1 ได้แก่ เรือไฟ อ.นาทม ได้รับเงินรางวัล 60,000 บาท อันดับ 2 เรือไฟจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม และ อันดับที่ 3 เรือไฟจาก อ.นาแก

               เรือไฟที่ใหญ่ที่สุดในปี 2555 นั้น คือเรือไฟจาก อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม ที่มีความยาวถึง 98 เมตร และมี่ขนาดความสูงถึง 28 เมตร และใช้ตะเกียงไฟทั้งหมด 30,000 กว่าดวง

 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท ความคิด อันดับ 1 อ.นาทม

 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท ความคิด อันดับ 2 องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม

 

รางวัลชนะเลิศเรือไฟประเภท ความคิด อันดับ 3 อ.นาแก

 


  • วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร องค์พระธาตุพนม ด้านหน้า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระธาตุพนม อีกหนึ่งมุมมอง ประวัติความเป็นมา พระธาตุพนมประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเ...

  • วัดพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม พระธาตุเรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม พระธาตุเรณู วัดพระธาตุเรณู เช้าตรู่ ชาวเรณูนครรวมกันบริเวณลานหน้าวัดพระธาตุเรณู พระธาตุเรณู ประดิษฐานอ...
#1 โดย: เจมส์ [IP: 171.4.137.xxx]
เมื่อ: 2016-09-12 21:38:03
สุดยอดครับ...ปีนี้ไม่น่าพลาด..ไปเที่ยวแน่

ชื่อผู้ตอบ: